| ทำอย่างไรให้เรารู้เท่าทันสินค้าปลอม และไม่ตกเป็นเหยื่อ |
|
|
|
อ้างอิง
อ่าน 5 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
PKT
|

ในยุคของการค้าขายไร้พรมแดนและการเข้าถึงสินค้าได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อของ 'สินค้าปลอม' (Counterfeit Products) ก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย สินค้าเหล่านี้ไม่ได้สร้างความเสียหายแค่เพียงการเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยร้ายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภคโดยตรง โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เช่น อาหารเสริม เครื่องสำอาง หรืออะไหล่รถยนต์ การสร้างเกราะป้องกันตัวเองด้วยการรู้เท่าทันจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องมี สินค้าปลอมหรือสินค้าลอกเลียนแบบมักผลิตขึ้นโดยไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการควบคุมคุณภาพ และอาจมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากผู้ผลิตมุ่งเน้นเพียงการทำกำไรสูงสุดเท่านั้น สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ยา อาหารเสริม หรือเครื่องสำอาง หากเป็นของปลอมอาจมีส่วนผสมต้องห้าม สารเคมีอันตราย หรือสารปนเปื้อนที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ติดเชื้อ หรืออันตรายต่ออวัยวะภายในในระยะยาว แม้จะเป็นสินค้าทั่วไปอย่างเสื้อผ้า กระเป๋า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าปลอมก็มีอายุการใช้งานสั้นกว่า คุณภาพต่ำกว่า และไม่สามารถใช้งานได้ตามที่ควรจะเป็น ทำให้ผู้บริโภคเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ การรู้เท่าทันสินค้าปลอมไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีความระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อในราคาที่ถูกเกินจริง และให้ความสำคัญกับการตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้า การลงทุนในสินค้าของแท้ แม้จะมีราคาสูงกว่า แต่คือการลงทุนในคุณภาพ ความปลอดภัย และความอุ่นใจในระยะยาว ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่ากว่าอย่างแน่นอน
สัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ว่า สินค้านั้นอาจเป็นของปลอมการจับสังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ คือกุญแจสำคัญในการแยกแยะของจริงออกจากของปลอม โดยมีสัญญาณที่ควรระวัง หากสินค้านั้นมีราคาสูงในตลาด แต่ถูกนำมาขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดมากจนผิดสังเกต ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนทันที เพราะผู้ขายของปลอมมักใช้ราคาที่น่าดึงดูดใจเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว (ซึ่งคล้ายกับกลยุทธ์การตลาดที่ใช้รางวัลใหญ่ดึงดูดความสนใจ แต่ในทางตรงกันข้ามคือการใช้ราคาต่ำเพื่อดึงดูด) บรรจุภัณฑ์ของสินค้าจริงมักจะถูกพิมพ์อย่างประณีตและมีคุณภาพสูง สังเกตความแตกต่าง เช่น ตัวอักษรเบลอหรือไม่คมชัด สีเพี้ยน โลโก้ผิดรูป หรือมีข้อความสะกดผิด (Misspelling) บนฉลาก หรือมีการใช้พลาสติก/กล่องที่ดูบอบบางเกินไป สินค้าแบรนด์เนมหรือสินค้าเฉพาะทางมักจะถูกจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้น หากสินค้านั้นถูกขายจากบัญชีส่วนตัวที่ไม่เปิดเผยตัวตน หรือในตลาดออนไลน์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ สังเกตความแตกต่างในตัวผลิตภัณฑ์จริง เช่น กลิ่น สี เนื้อสัมผัส หรือฟังก์ชันการใช้งาน หากสินค้าเป็นเครื่องสำอางหรืออาหารเสริม ลองตรวจสอบว่าหมายเลขล็อตการผลิต หรือวันหมดอายุมีการพิมพ์อย่างชัดเจนหรือไม่ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการสร้างวินัยในการตรวจสอบก่อนตัดสินใจซื้อ เน้นการซื้อจากร้านค้าปลีกของแบรนด์โดยตรง (Official Store) หรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ หรือร้านค้าที่เชื่อถือได้บนแพลตฟอร์ม E-commerce ที่มีการรับรองความถูกต้องของสินค้า สินค้าหลายชนิด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สุขภาพ จะต้องมีสติ๊กเกอร์โฮโลแกรม (Hologram) สติ๊กเกอร์กันปลอม หรือหมายเลขทะเบียนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น อย. สำหรับประเทศไทย) ซึ่งสามารถนำไปตรวจสอบความถูกต้องกับฐานข้อมูลของหน่วยงานนั้น ๆ ได้ ก่อนซื้อ ควรศึกษาภาพถ่ายสินค้าจริงจากเว็บไซต์ของแบรนด์ ข้อมูลจำเพาะของบรรจุภัณฑ์ และจุดสังเกตเฉพาะของรุ่นนั้น ๆ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบกับสินค้าที่กำลังจะซื้อได้อย่างแม่นยำ แบรนด์ใหญ่หลายแห่งมีแอปพลิเคชันหรือช่องทางให้ผู้บริโภคสามารถสแกน QR Code หรือป้อนรหัสผลิตภัณฑ์เพื่อยืนยันความเป็นของแท้ได้
|
| |
PKT [58.136.154.xxx] เมื่อ 28/10/2025 12:53
|