
ปัจจุบันประกันชีวิตและประกันสุขภาพเป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างมาก เนื่องจากสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น การเจ็บป่วย การเสียชีวิต หรืออุบัติเหตุ อย่างไรก็ดี หลายคนอาจยังสับสนระหว่างประกันชีวิตและประกันสุขภาพว่าแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้จึงจะพามาไขข้อสงสัย เพื่อสามารถเข้าใจและเลือกซื้อประกันที่เหมาะกับความต้องการได้อย่างเหมาะสม
เจาะความหมาย! ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ
- ประกันชีวิต คือ สัญญาระหว่างผู้เอาประกันภัยกับบริษัทประกันชีวิต โดยผู้เอาประกันภัยจะชำระเบี้ยประกันให้กับบริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับผลประโยชน์ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ
- ประกันสุขภาพ คือ สัญญาระหว่างผู้เอาประกันภัยกับบริษัทประกันภัย โดยผู้เอาประกันภัยจะชำระเบี้ยประกันให้กับบริษัทประกันภัย และบริษัทประกันภัยจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้เอาประกันภัยในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ
ความแตกต่างระหว่างประกันชีวิตและประกันสุขภาพ
- วัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์หลักของประกันชีวิตคือการคุ้มครองความเสี่ยงจากการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันชีวิตเพื่อทดแทนรายได้ที่สูญเสียไปหรือเพื่อดูแลครอบครัว ในทางกลับกัน วัตถุประสงค์หลักของประกันสุขภาพคือการคุ้มครองค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินจากบริษัทประกันภัยเพื่อชำระค่ารักษาพยาบาล
- ความคุ้มครอง
ประกันชีวิตให้ความคุ้มครองที่หลากหลาย เช่น คุ้มครองการเสียชีวิต คุ้มครองการสูญเสียอวัยวะ คุ้มครองทุพพลภาพ คุ้มครองการชราภาพ คุ้มครองโรคร้ายแรง ส่วนประกันสุขภาพให้ความคุ้มครองด้านค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา
- ระยะเวลาคุ้มครอง
ประกันชีวิตมีระยะเวลาคุ้มครองที่ยาวนานกว่าประกันสุขภาพ โดยประกันชีวิตส่วนใหญ่มีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ส่วนประกันสุขภาพส่วนใหญ่มีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป
- เบี้ยประกัน
เบี้ยประกันชีวิตโดยทั่วไปจะสูงกว่าเบี้ยประกันสุขภาพ เนื่องจากประกันชีวิตให้ความคุ้มครองที่หลากหลายและระยะเวลาคุ้มครองที่ยาวนานกว่า
- ความยืดหยุ่น
ประกันชีวิตมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าประกันสุขภาพ เนื่องจากประกันชีวิตมีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ค่อนข้างตายตัว ส่วนประกันสุขภาพมีความยืดหยุ่นมากกว่า เนื่องจากผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกแผนความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ได้ตามความต้องการ
การเลือกซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพ
- ความต้องการ
พิจารณาจากความต้องการและความจำเป็นในการคุ้มครองความเสี่ยง เช่น หากต้องการคุ้มครองความเสี่ยงจากการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพ ควรพิจารณาทำประกันชีวิต หากต้องการคุ้มครองค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล ควรพิจารณาทำประกันสุขภาพ
- ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน
ควรพิจารณาจากความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน โดยเบี้ยประกันไม่ควรสูงจนเกินความสามารถในการผ่อนชำระ
ควรศึกษาเงื่อนไขและข้อกำหนดของประกันให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ เช่น ระยะเวลาคุ้มครอง ความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกัน และสิทธิประโยชน์ต่างๆ
หากต้องการทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพ ควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์จากหลายบริษัท เพื่อให้สามารถเลือกซื้อประกันที่เหมาะกับความต้องการและเหมาะสมกับงบประมาณมากที่สุด