ใครประสบปัญหารู้สึกว่าสมองทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ อ่อนเพลีย จำอะไรไม่ค่อยได้ คิดอะไรไม่ค่อยออกอยู่บ้าง นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายของคุณกำลังประท้วงและอยู่ใน ‘ภาวะสมองล้า’ โดยไม่รู้ตัว แล้วอาการสมองล้าคืออะไร เกิดจากสาเหตุใด แล้วจะมีวิธีรับมืออย่างไรให้ถูกต้อง บทความนี้บอกให้ครบจบทุกประเด็น!

ภาวะสมองล้า (Brain Fog) คือ ภาวะที่สมองมีประสิทธิภาพในการทำงานต่ำลง ส่งผลให้เกิดความบกพร่องในด้านการคิด การจดจำ การเรียนรู้ การตัดสินใจ และสมาธิ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน และความสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าสมองของคุณอยู่ในภาวะอ่อนล้าก็มีอยู่หลายประการ สามารถเช็กตัวเองเบื้องต้นได้ง่าย ๆ ผ่านอาการเหล่านี้
- รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย หมดแรง
- จดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ยากขึ้น
- คิดช้าลง ตัดสินใจช้าลง
- สมาธิสั้น วอกแวกง่าย
- มีปัญหาในการคิดสร้างสรรค์
- อารมณ์แปรปรวนง่าย
- นอนหลับไม่สนิท
สาเหตุของการเกิดภาวะสมองล้า
อาการสมองล้าเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ที่มักพบบ่อย ได้แก่
- ความเครียด เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด เนื่องจากความเครียดส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการทำงานของสมองโดยตรงนั่นเอง
- การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของสมองได้
- การขาดสารอาหารรบางชนิด เช่น วิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก และโอเมก้า 3 ก็สามารถส่งผลต่อการทำงานของสมองได้เช่นกัน
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้ปวด ยาลดความดันโลหิต และยารักษาโรคซึมเศร้า
- โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคเบาหวาน โรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์กินสัน ที่มีผลกระทบต่อการทำงานของสมอง
วิธีรับมือกับภาวะสมองล้า
หากคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังมีอาการของสมองล้าตามที่กล่าวมาข้างต้น หรือเป็นคนที่มีพฤติกรรมอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอาการสมองล้าได้ คุณสามารถรับมือกับอาการเหล่านี้ในเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ โดยผู้ใหญ่ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูเต็มที่
- หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น การฟังเพลง การอ่านหนังสือ การนวด การออกกำลังกาย หรือออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้สด เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
หากมีอาการของภาวะสมองล้า ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วก็ยังรู้สึกว่าไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม ก่อนอาการจะลุกลามและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมถึงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันในอนาคต