มหัศจรรย์จากสเต็มเซลล์สู่การฟื้นฟูสุขภาพ

สเต็มเซลล์ (Stemcell) เป็นเซลล์ต้นกำเนิดชนิดหนึ่งที่ได้จากเก็บ stem cell ทารกในขณะแรกคลอด ซึ่งสามารถจัดเก็บได้จากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นสเต็มเซลล์จากรก สายสะดือ เนื้อเยื่อหุ้มรก หรือแม้กระทั่งไขมันต่าง ๆ โดยสเต็มเซลล์เป็นหนึ่งในวิธีการฟื้นฟูสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในทางการแพทย์อย่างแพร่หลาย สามารถใช้ฟื้นฟูสุขภาพได้นานาชนิด และยังช่วยซ่อมแซมสภาพร่างกายจากความเสื่อมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

สเต็มเซลล์มีความสามารถในการแบ่งตัวที่ไม่จำกัด และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นเซลล์อวัยวะและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างไม่จำกัด โดยในทางการแพทย์จึงนิยมนำสเต็มเซลล์มาใช้ทดแทนเซลล์ที่สูญเสียไปภายในร่างกาย เพื่อให้กลับมาทำหน้าที่ภายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

สเต็มเซลล์คุณภาพสูงจากแหล่งกำเนิดนานาชนิด

สเต็มเซลล์สามารถจัดเก็บได้จากแหล่งกำเนิดของเซลล์นานาชนิดภายในร่างกาย และจะต้องนำมาผ่านกระบวนการการเพาะเลี้ยงเพื่อให้ได้สเต็มเซลล์ที่มีประโยชน์ในการฟื้นฟูสุขภาพ โดยส่วนใหญ่ผู้เชี่ยวชาญมักจะแนะนำให้เราเลือกจัดเก็บสเต็มเซลล์ในขณะแรกคลอด เนื่องจากจะเกิดความเจ็บปวดในการจัดเก็บน้อยกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ และยังสามารถจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดได้หลากหลายผลิตภัณฑ์ เนื่องจากเป็นการจัดเก็บ stem cell ทารกที่จะอุดมไปด้วยสายสะดือ รก เนื้อเยื่อหุ้มรก รวมไปถึงเซลล์ไขมันอีกมากมาย เพื่อนำไปเพาะเลี้ยงให้กลายเป็นสเต็มเซลล์จากรกหรือสเต็มเซลล์จากส่วนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

สเต็มเซลล์เลือดสายสะดือ-Cord Blood (CB) 

เริ่มต้นการที่สเต็มเซลล์ชนิดแรกที่ได้จากการเก็บ stem cell ทารกในขณะแรกคลอด ซึ่งจะเต็มไปด้วยเซลล์ต้นกำเนิดที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ จากอาหารและวิตามินต่าง ๆ ที่คุณแม่รับประทานเพื่อนำไปเลี้ยงลูกน้อยในครรภ์ โดยสเต็มเซลล์เลือดสายสะดือนั้นมักใช้ในการฟื้นฟูเซลล์เม็ดเลือดและระดับภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยสามารถนำสเต็มเซลล์ที่ได้ไปใช้ฟื้นฟูโรคต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้

• กลุ่มโรคมะเร็งเม็ดเลือดทุกชนิดกลุ่มโรคไขกระดูกผิดปกติ
• กลุ่มโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
• กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือดแดง
• กลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญอาหาร เป็นต้น

สเต็มเซลล์เนื้อเยื่อสายสะดือ-Cord Tissue (CT)

สำหรับสเต็มเซลล์เนื้อเยื่อสายสะดือ เป็นอีกหนึ่งเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้จากการเก็บ stem cell ทารกในขณะแรกเกิด โดยเป็นการจัดเก็บเนื้อเยื่อในบริเวณสายสะดือ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูสุขภาพที่ไม่จำกัดเพียงแค่ลูกน้อย แต่ยังสามารถนำไปใช้ในการฟื้นฟูสุขภาพของสมาชิกท่านอื่นในครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยเน้นไปที่การฟื้นฟูโรคที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย อาทิเช่น ไขมัน กระดูก หรือกระดูกอ่อน และโรคร้ายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

• โรคข้อเข่าอักเสบ (Osteoarthritis)
• โรคหลอดเลือดขาอุดตัน (Critical Limb Ischemia)
• ภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute Respiratory Distress Syndrome)
• ภาวะสเต็มเซลล์ของผู้ให้ต่อต้านร่างกายผู้ป่วยภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ (Graft Versus Host Disease)
• โรคลำไส้อักเสบโครนส์ (Crohn’s Disease)
• โรคเบาหวาน (Diabetes)
• โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Multiple Sclerosis) เป็นต้น

สเต็มเซลล์เนื้อเยื่อหุ้มรก-Amnion Tissue (AT)

สเต็มเซลล์จากรกชนิดนี้เป็นอีกหนึ่งสเต็มเซลล์ที่ได้จากการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดในคุณแม่และลูกน้อยในขณะคลอด มีคุณสมบัติในการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์รูปแบบอื่น ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเซลล์กระดูก กระดูกอ่อน และเซลล์ไขมันต่าง ๆ อีกทั้งยังมีความสามารถแปลงไปเป็นเซลล์เนื้อเยื่อได้หลายชนิด จึงมีการศึกษาและวิจัยเพิ่มเติมที่พบว่าสเต็มเซลล์จากรกชนิดนี้จะส่งผลลัพธ์ที่ดีในการใช้ฟื้นฟูโรคทางระบบประสาทและสมอง รวมไปถึงโรคอื่น ๆ อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น

• โรคอัมพาตการบาดเจ็บที่คอและไขสันหลัง
• โรคพาร์กินสัน
• โรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น

สเต็มเซลล์เนื้อเยื่อไขมัน-Adipose Tissue (ADSC)

อีกหนึ่งเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถเพาะเลี้ยงให้กลายเป็นสเต็มเซลล์สำหรับการฟื้นฟูสุขภาพได้ นั่นก็คือสเต็มเซลล์เนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งไม่ได้ถูกจำกัดไว้แค่การจัดเก็บในขณะแรกคลอดเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถจัดเก็บได้จากเนื้อเยื่อไขมันตามปกติอีกด้วย โดยสเต็มเซลล์ชนิดนี้มีความสามารถในการฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพจากโรคแพ้ภูมิตัวเอง และข้อเข่าเสื่อม รวมไปจนถึงฟื้นฟูร่างกายจากความอ่อนล้า และความงามด้านผิวพรรณที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย

• โรคแพ้ภูมิตัวเอง
• ฟื้นฟูข้อเข่าและข้อต่อเสื่อม
• ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายจากความเสื่อมต่าง ๆ 
• ฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า 
• ฟื้นฟูสุขภาพความงามเฉพาะบุคคล เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าสเต็มเซลล์ที่ไม่ว่าจะได้จากการจัดเก็บในรูปแบบปกติ หรือเป็นการจัดเก็บ stem cell ทารกอย่างเช่นสเต็มเซลล์จากรกก็ล้วนแล้วแต่มีคุณประโยชน์ในการฟื้นฟูสุขภาพเป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้ป่วยในโรคร้ายต่าง ๆ ได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้งนั่นเอง