สมาชิก

สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
ปฎิทิน
March 2025
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
      
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
     
บทความ
y
สถิติ
เปิดเมื่อ4/05/2011
อัพเดท11/10/2017
ผู้เข้าชม100314205
แสดงหน้า180253877
จดหมายข่าว


ผู้สูงอายุนอนไม่หลับ อาการที่จำเป็นต้องดูแล

ผู้สูงอายุนอนไม่หลับ อาการที่จำเป็นต้องดูแล
อ้างอิง อ่าน 46 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง


ผู้สูงอายุนอนไม่หลับคืออาการที่จำเป็นต้องดูแลและใส่ใจ

 

รู้หรือไม่ว่าในไทยมีผู้สูงอายุนอนไม่หลับถึง 50% อาการนอนไม่หลับผู้สูงอายุจึงไม่ได้เป็นเรื่องที่ควรมองข้ามหรือปล่อยผ่านได้อีกต่อไป เพราะการนอนไม่หลับ ผู้สูงอายุอาจจะกลายเป็นสิ่งที่สร้างปัญหาเรื้อรังตามมาได้นั่นเอง

 

เมื่อพบว่าผู้สูงอายุนอนไม่หลับเราจึงควรดูแลและใส่ใจผู้สูงอายุให้มากกว่าเดิม เพราะการดูแลที่ถูกวิธีจะช่วยบรรเทาให้ผู้สูงอายุนอนไม่หลับลดน้อยลง โดยอาการนอนไม่หลับในผู้สูงอายุนั้น จะเป็นอาการนอนหลับได้น้อยลง หลับยากขึ้น หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดเวลา ซึ่งสาเหตุของอาการเหล่านี้เกิดจากอะไรบ้าง? ไปดูกัน

 
  • พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
  • ผลข้างเคียงจากการกินยา
  • ปัญหาสุขภาพจิต
  • ความเจ็บป่วย
  • การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
  • สภาพแวดล้อมในห้องนอน
 

จะเห็นได้ว่าการที่ผู้สูงอายุนอนไม่หลับนั้น เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุทั้งภายในร่างกายและภายนอกร่างกาย ซึ่งเราจำเป็นจะต้องใส่ใจและดูแลผู้สูงอายุให้มากขึ้น เพื่อให้อาการนอนไม่หลับของผู้สูงอายุลดลงและสามารถนอนหลับยาวได้ตลอดทั้งคืน

 

วิธีแก้อาการผู้สูงอายุนอนไม่หลับ

 

ถ้าเราสังเกตเห็นแล้วว่าผู้สูงอายุนอนไม่หลับหรือมีอาการตามที่เราได้บอกไปในข้างต้น เราก็จะต้องเริ่มปรับพฤติกรรมของผู้สูงอายุให้สามารถลดอาการนอนไม่หลับผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งวิธีแก้อาการผู้สูงอายุนอนไม่หลับจะมีอะไรบ้าง? ไปดูกัน

 
  • กินอาหารที่มีประโยชน์
  • ไม่ดื่มน้ำก่อนนอน
  • ไม่ซื้อยามากินเอง
  • กำหนดเวลาเข้านอนและเวลาตื่น
  • ออกกำลังสม่ำเสมอ
 

กินอาหารที่มีประโยชน์

 

เราสามารถดูแลให้ผู้สูงอายุมีอาการนอนไม่หลับลดลงได้จากการให้ผู้สูงกินอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน และงดการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องที่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนด้วย ซึ่งการกินอาหารที่มีประโยชน์นั้น จะทำให้ร่างกายของผู้สูงอายุได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และที่สำคัญผู้สูงอายุควรจะกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อให้ระบบย่อยทำงานได้ดีและไม่เกิดอาการท้องผูกที่อาจทำให้นอนหลับได้ไม่ดีนั่นเอง

 

ไม่ดื่มน้ำก่อนนอน

 

อาการนอนไม่หลับผู้สูงอายุลดลงได้เพียงแค่หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำก่อนเข้านอน เพราะการดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ ก่อนเข้านอนจะทำให้ปวดปัสสาวะตอนกลางดึก และส่งผลให้การนอนหลับไม่ต่อเนื่อง จนอาจกลายเป็นอาการนอนไม่หลับได้

 

ไม่ซื้อยามากินเอง

 

เรามักจะเห็นอยู่บ่อย ๆ ว่าคนสูงวัยมักจะซื้อยากินเองอยู่บ่อย ๆ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้อาจจะนำไปสู่อาการผู้สูงอายุนอนไม่หลับได้ เพราะยาบางชนิดก็อาจจะออกฤทธิ์สารตกค้างในร่างกายนานกว่าปกติและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรดูแลให้ผู้สูงอายุปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเมื่อมีอาการป่วย เพื่อให้แพทย์จ่ายยาที่เหมาะสมมาให้นั่นเอง

 

กำหนดเวลาเข้านอนและเวลาตื่น

 

การกำหนดเวลาเข้านอนและเวลาตื่นคืออีกหนึ่งทางเลือกในการลดอาการนอนไม่หลับในผู้สูงอายุ และหากสามารถทำได้เป็นประจำร่างกายของผู้สูงอายุก็จะเริ่มชินกับเวลานอนและเวลาตื่นตามที่กำหนดไว้ จนทำให้นอนหลับตามเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญจะต้องหลีกเลี่ยงการนอนกลางวันหลัง 15.00 น. เป็นต้นไปด้วย

 

ออกกำลังสม่ำเสมอ

 

การทำกิจกรรมอย่างการกำลังกายนั้น จะทำให้ร่างกายของผู้สูงอายุได้ออกแรงและเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม และการออกกำลังกายยังสามารถกระตุ้นให้ผู้สูงอายุไม่ง่วงหรืองดการนอนกลางวันได้อีกด้วย ซึ่งการออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้สูงอายุมีดังนี้

  • การเดินเล่น
  • การวิ่งเหยาะ ๆ
  • การเต้นแอโรบิก
  • การรำมวยจีน
  • การเล่นโยคะ
 

เรียกได้ว่าแค่เราสามารถดูแลผู้สูงอายุได้ดี ก็จะทำให้ผู้สูงอายุนอนไม่หลับน้อยลง แถมยังทำให้อาการนอนไม่หลับผู้สูงอายุดีขึ้น ส่งผลให้สุขภาพกายและสุขภาพใจของผู้สูงอายุได้รับสิ่งดี ๆ และทำให้การนอนไม่หลับผู้สูงอายุหายไปได้ในที่สุด

 
 
admeadme [184.22.66.xxx] เมื่อ 22/09/2023 10:38
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
Rich Text Editor
รูปประกอบความคิดเห็น :
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
อีเมล์ :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :