สำหรับคนที่มีโรคภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัว คงเข้าใจถึงความทรมานจากการคัดจมูก จาม ผื่นขึ้น น้ำมูกและน้ำตาไหล รวมทั้งอาการอื่น ๆ เมื่อโดนสารก่อภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนที่แพ้ไรฝุ่นซึ่งหาทางหลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะไรฝุ่นมีขนาดเล็กมากจนมองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น ทำให้หลายคนต้องมียาแก้แพ้ไรฝุ่นติดตัวเอาไว้เผื่อเหตุฉุกเฉินอยู่เสมอ
แล้วยาแก้แพ้ไรฝุ่นมีกี่แบบ และนอกจากการใช้ยาแก้แพ้แล้ว คนที่มีอาการแพ้ไรฝุ่นจะสามารถรับมืออาการแพ้ของตัวเองด้วยวิธีไหนได้บ้าง มาร่วมหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันได้ที่บทความนี้เลย!
ประเภทของยาแก้แพ้ไรฝุ่นที่ชาวภูมิแพ้ควรรู้
อาการเบื้องต้นที่มักพบบ่อยของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น ได้แก่ อาการคัดจมูก คันจมูก จาม น้ำมูกไหล คันตา แสบตา เคืองตา น้ำตาไหล คันคอ ไอ และเป็นผื่นคันบริเวณผิวหนัง โดยยาที่ช่วยบรรเทาอาการสำหรับคนแพ้ไรฝุ่นจะแบ่งเป็น 4 ประเภทด้วยกัน ดังนี้
1.ยาแก้แพ้ (Antihistamines)
เป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสารก่อภูมิแพ้ ช่วยลดอาการคันจมูก ภูมิแพ้ น้ำตาไหล
2. ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก (Nasal corticosteroids)
ออกฤทธิ์ช่วยลดอาการบวมในโพรงจมูก แก้อาการคัดจมูก
3. ยาสเตียรอยด์ชนิดทา (Topical corticosteroids)
เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นผื่นคัน จะช่วยลดอาการคันและอักเสบบริเวณผิวหนัง
4. ยาสเตียรอยด์ชนิดรับประทาน (Oral corticosteroids)
ช่วยลดการอักเสบและระคายเคือง เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้ไรฝุ่นอย่างรุนแรง
หากผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อร่วมด้วย แพทย์อาจจ่ายยาฆ่าเชื้อให้เพิ่มเติม และแม้ว่ายาแก้แพ้หลายตัวจะสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่เพื่อความปลอดภัย หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการแพ้ไรฝุ่นอยู่เป็นประจำ ควรไปพบแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัยจะดีที่สุด
ทางเลือกรับมือหากมีอาการแพ้ไรฝุ่น
นอกจากการใช้ยาแก้แพ้ไรฝุ่นแล้ว การแพทย์ยุคใหม่ยังมีวิธีรับมือกับอาการแพ้ไรฝุ่นเป็นทางเลือกเพิ่มเติมอีก โดยวิธีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือการรักษาด้วยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าวัคซีนภูมิแพ้ไรฝุ่นนั่นเอง เป็นการให้สารที่แพ้เข้าสู่ร่างกายทีละน้อยเพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ สร้างภูมิต้านทานขึ้นมา มีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ แบบฉีดเข้าใต้ผิวหนัง และแบบรับประทานโดยอมไว้ใต้ลิ้น โดยต้องรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
รู้จักยาแก้แพ้ไรฝุ่นและทางเลือกในการรักษาอาการแพ้ไรฝุ่นแล้ว อย่าลืมดูแลสภาพแวดล้อมในบ้านให้สะอาด ปราศจากไรฝุ่นอยู่เสมอ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาด ถูกสุขอนามัย นำไปสู่สุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืนของสมาชิกทุกคนในครอบครัว
