ขั้นตอนการทำ ICSI ทางเลือกรักษาภาวะมีลูกยาก |
|
อ้างอิง
อ่าน 179 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
|
ปัจจุบันมีคู่สามีภรรยาจำนวนมากที่ต้องเผชิญกับภาวะมีลูกยาก จะด้วยปัญหาสุขภาพของฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงก็ตาม แต่ต้องขอบคุณเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ช่วยสานฝันให้คู่สามีภรรยาประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์และมีลูกด้วยสารพัดเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการทำ IVF การผสมเทียม และการทำเด็กหลอดแก้วหรือ ICSI สำหรับใครที่ประสบปัญหานี้อยู่และอยากวางแผนตั้งครรภ์ด้วยการทำ ICSI มาดูขั้นตอนการทำ ICSI และข้อดีของวิธีนี้กัน

รู้จักความหมายและขั้นตอนการทำ ICSI
การทำเด็กหลอดแก้ว (Intracytoplasmic Sperm Injection) หรือที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อการทำ ICSI เป็นวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ จากคู่แต่งงานในปัจจุบัน โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะทำการฉีดอสุจิที่สมบูรณ์แข็งแรงเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรงจนเกิดเป็นเซลล์ตัวอ่อนขึ้นมา เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการปฏิสนธิและการตั้งครรภ์
การทำ ICSI เหมาะกับคู่สามีภรรยาที่มีปัญหาสุขภาพ ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ด้วยวิธีธรรมชาติได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายชายมีปริมาณอสุจิน้อย อสุจิไม่สมบูรณ์ เป็นหมันหรือเคยผ่านการทำหมันมาแล้ว หรือฝ่ายหญิงที่อายุเกิน 35 ปีขึ้นไป มีเปลือกไข่หนาจนอสุจิไม่สามารถเจาะทะลุเซลล์ไข่ได้ รวมทั้งคู่สมรสที่มีความเสี่ยงเป็นพาหะโรคทางพันธุกรรม เพราะแพทย์จะนำตัวอ่อนไปตรวจวินิจฉัยก่อนใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงทุกครั้ง
สำหรับคนที่สนใจและอยากวางแผนทำ ICSI นี่คือขั้นตอนการทำ ICSI เบื้องต้น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจและเตรียมตัวอย่างถูกต้องนั่นเอง
-
กระตุ้นไข่ด้วยการฉีดยาในวันที่ 2-3 ของรอบเดือนติดต่อกัน 8-10 วัน เพื่อกระตุ้นจำนวนไข่ให้ตกมากกว่าปกติ
-
เก็บไข่ผ่านทางช่องคลอดแล้วนำไปทำความสะอาดในน้ำยาเพาะเลี้ยงและเก็บไว้ในห้องปฏิบัติการ
-
เก็บและคัดกรองอสุจิของฝ่ายชายเพื่อคัดเลือกตัวที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุด
-
ผสมอสุจิกับไข่เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิแล้วเพาะเลี้ยงไว้ 3-5 วันในห้องปฏิบัติการที่สภาพแวดล้อมเหมาะสม จากนั้นดึงเซลล์ออกมาเพื่อตรวจหาความผิดปกติ
-
หากตัวอ่อนปกติ ก็จะถูกใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูกของผู้เป็นแม่ หลังจากนั้น 9-11 วันจะทำการตรวจการตั้งครรภ์อีกครั้ง
ข้อดีของการทำ ICSI ที่คู่สมรสควรรู้
หลังจากรู้จักขั้นตอนการทำ ICSI ไปแล้ว ต่อไปเราลองมาดูกันดีกว่าว่าการทำเด็กหลอดแก้ววิธีนี้ มีข้อดีอย่างไรบ้าง
-
เพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยากและผู้ที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป
-
สามารถฝากตัวอ่อนแช่แข็งไว้ก่อนได้เพื่อรอเวลาที่พร้อมจะตั้งครรภ์
-
หากทำ ICSI แล้วได้ตัวอ่อนหลายตัว สามารถเก็บไว้ครั้งต่อไปได้โดยไม่ต้องเริ่มกระบวนการใหม่
-
สามารถตรวจโครโมโซมก่อนใส่ตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูกได้
และนี่คือข้อดีรวมทั้งขั้นตอนการทำ ICSI ที่คู่สมรสที่มีลูกยากควรศึกษาไว้ เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนรักษาและเตรียมตัวตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยนั่นเอง
|
|
w.cassie
[49.229.125.xxx] เมื่อ 31/01/2023 13:09
|