อย่าพลาดรับซื้อโอเมก้ารุ่น Speedmaster รุ่นล่าสุด |
|
อ้างอิง
อ่าน 112 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
|

อย่าพลาดที่จะรับซื้อโอเมก้ารุ่น Speedmaster รุ่นใหม่ล่าสุด
ในปี 2022 Omega ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ให้นักสะสมได้รับซื้อโอเมก้าอีกครั้ง กับรุ่น Speedmaster ทั้ง Speedmaster Calibre 321 และ Speedmaster Professional ที่รับรองว่าแตกต่างไปจากที่เคยรับซื้อ นาฬิกา omega รุ่นก่อน ๆ อย่างแน่นอน เพราะมันได้สร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้รับซื้อ omega ที่เฝ้ารอคอยข่าวมาตั้งแต่ปี 2020 สำหรับรุ่น moonwatch ส่วนรุ่น Calibre 321 ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อนักแข่งรถระดับมืออาชีพจึงทำให้ผู้สวมใส่สามารถอ่านเวลาและใช้งานได้อย่างสะดวก ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้นักสะสมนาฬิกาได้ไม่น้อย
แต่สำหรับใครที่เพิ่งเข้ามาในวงการนาฬิกาโอเมก้า คงแปลกใจว่า ทำไมนาฬิการุ่นใหม่ ๆ ถึงน่าสนใจ ทั้งที่ดูภายนอกก็ดูไม่ต่างอะไรจากนาฬิการุ่นก่อน ๆ ที่นักสะสมรับซื้อโอเมก้ามา ซึ่งเรามีจุดน่าสนใจของนาฬิการุ่นใหม่ปี 2022 ที่ทำให้คุณเข้าใจและอยากซื้อมาครอบครองก่อนใคร
Omega Speedmaster ที่มีจุดเริ่มต้นจากนักแข่งระดับโลก
ถ้าเป็นนักสะสมนาฬิกาตัวยงที่รับซื้อ omega Speedmaster คงจะทราบประวัติอย่างดีว่า นาฬิการุ่นนี้เริ่มในปี 1957 ที่นาฬิกา COLLECTION นี้ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรก โดยเป็นนาฬิกาที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อนักแข่งรถระดับมืออาชีพจึงทำให้ผู้สวมใส่สามารถอ่านเวลาและใช้งานได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกของโลกที่สเกลทาคีมิเตอร์ถูกจัดวางบนวงขอบตัวเรือนแทนที่บนหน้าปัด จึงกลายเป็นรายละเอียดในอุดมคติที่ช่วยในการคำนวณความเร็วเฉลี่ยในเส้นทาง เสริมด้วยความแข็งแกร่ง ความเที่ยงตรงระดับสูงและการออกแบบให้สามารถกันน้ำของนาฬิกา ทั้งหมดนี่จึงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้รับซื้อโอเมก้าต่างก็หลงใหล
Omega Speedmaster Calibre 321 กับจุดที่น่าสนใจ
Omega Speedmaster Calibre 321 เป็นหนึ่งในนาฬิการุ่น Speedmaster ในเปิดตัวในปี 2022 ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้มีจุดที่น่าสนใจที่ทำให้คุณต้องอยากรับซื้อ นาฬิกา omega มากขึ้น
Omega Speedmaster Calibre 321 มีแรงบันดาลใจจากนาฬิการุ่นเก่า
นาฬิกา Omega Speedmaster Calibre 321 เป็นนาฬิกาที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Speedmaster รุ่นแรกหรือที่รู้จักในชื่อ CK2915-1 โดยในวาระครบรอบ 65 ปีนี้ถูกเฉลิมฉลองผ่านตัวเรือนขนาด 38.6 มม. ที่รังสรรค์จาก Canopus Gold™ 18K อันเป็นเอกลักษณ์ วัสดุเอกสิทธิ์เฉพาะของโอเมก้าชนิดนี้เป็นอัลลอยด์ไวท์โกลด์ซึ่งโดดเด่นด้วยคุณสมบัติความขาวคงทนไม่ซีดจาง มาพร้อมสัญลักษณ์ NAIAD ที่ปรากฏบนเม็ดมะยมซึ่งถูกใช้งานในฐานะเครื่องบ่งบอกคุณสมบัติการกันน้ำของ CK2915 รุ่นแรก ๆ
ดีไซน์หน้าปัดและฟังก์ชันที่น่าสนใจของ Speedmaster Calibre 321
นาฬิกา Omega Speedmaster Calibre 321 มีดีไซน์หน้าปัดนาฬิกาเป็นหน้าปัดโอนิกซ์สีดีปแบล็คประดับด้วยตราโอเมก้าแบบวินเทจและตัวอักษร “O" ทรงวงรี ซึ่งเป็นรายละเอียดเดียวกับ CK2915 รุ่นแรกที่หลายคนอยากรับซื้อ นาฬิกา omega ส่วนหน้าปัดย่อยทั้งสามของเรือนนี้ประกอบด้วยหน้าปัดย่อยบอกวินาที, หน้าปัดย่อยจับเวลา 30 นาทีและหน้าปัดย่อยจับเวลา 12 ชั่วโมง และมาพร้อมกับฟังก์ชันเข็มโครโนกราฟกลาง
นาฬิการุ่นนี้มีกลไก Calibre 321 ซึ่งเป็นกลไกดั้งเดิมที่พบใน Speedmaster จากปี 1957 และยังเคยทำหน้าที่เป็นขุมกำลังสำหรับนาฬิกาที่ถูกสวมใส่ในภารกิจ Apollo หลายครั้ง รวมถึงการลงจอดบนดวงจันทร์ทั้ง 6 ครั้ง ซึ่งในปี 2019 โอเมก้าได้นำกลไก Calibre 321 มาใช้อีกครั้ง โดยยังคงรักษาคุณลักษณะแบบดั้งเดิมไว้ทุกประการ ถือเป็นการเชื่อมสายสัมพันธ์กับนาฬิการุ่นก่อน ๆ
นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดเล็กที่ยังสื่อไปถึงนาฬิการุ่นก่อนอีกด้วยอย่าง ตั้งแต่การแกะสลักรูป OMEGA Seahorse สัญลักษณ์ของแบรนด์ที่ถูกใช้กับเรือนเวลา Speedmaster ตั้งแต่ปี 1957 ถูกบรรจุอยู่ด้านในกระจกแซฟไฟร์ ดวงตาของม้าน้ำส่องประกายด้วยแซฟไฟร์สีน้ำเงินซึ่งเป็นอัญมณีที่มักใช้ในการฉลองครบรอบ 65 ปี ถือว่าเป็นการระลึกถึงนาฬิการุ่นก่อน ๆ ได้อย่างชัดเจน ที่นักสะสมควรค่าแก่การรับซื้อโอเมก้ามาสักเรือน
Omega Speedmaster Professional กับจุดที่แตกต่างจากรุ่นเดิม
Omega Speedmaster Professional เป็นนาฬิกาที่หลาย ๆ คนต่างจับตามองตั้งแต่ในปี 2020 แล้ว ซึ่งนักสะสมมือใหม่ ๆ คงจะหาจุดแตกต่างจากรุ่นก่อนไม่เจอ ซึ่งเราจะมาบอกจุดสังเกตที่ผู้รับซื้อ omega เห็นภาพยิ่งขึ้น ซึ่งมีดังนี้
หน้าปัดที่แตกต่างจากเดิม
เดิมนั้นเป็นพื้นหน้าปัดที่ดูแบบเรียบ ๆ ยกเว้นตรงที่เป็นหน้าปัดย่อย หรือ Subdial ที่จะมีการเว้าลงไปเป็นหลุมนั้น ในตอนนี้ขอบนอกติดกับหลักชั่วโมงนั้นทาง Omega ถูกออกแบบให้เล่นระดับจนทำให้หน้าปัดมีมิติมากขึ้น นอกจากนั้นโลโก้ในตำแหน่ง 12 นาฬิกาสำหรับรุ่นกระจก Sapphire (หรือ 1863 เดิม) ก็จะนูนขึ้นมา และจะขัดเงาโดยใช้ผงเพชร หรือ Diamond Polishing ซึ่งสร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อย
การขัดแต่งตัวเรือน ฝาหลัง และสาย
ตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตรมีการขัดแต่งในแบบลายซาตินเหมือนกับ Seamaster ด้วยความเนียนที่เพิ่มขึ้น สายจะเหมือนกับรุ่น 1116/575 ที่ขายในระหว่างปี 1968-1972 ส่วนฝาหลังถูกเปลี่ยนใหม่ด้วยฝาหลังแบบมีเล่นระดับความนูนของพื้นผิว และเพิ่มตัวหนังสือเข้าไปในบางจุด โดยเฉพาะคำว่า Master Chronometer เพื่อบ่งบอกถึงความเที่ยงตรงของกลไก ส่วนรุ่นที่เป็นแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและหลังนั้น สามารถในการป้องกันสนามแม่เหล็กในระดับ 15,000 เกาส์เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อความหนาของตัวเรือนที่บางลงด้วย ซึ่งในรุ่นฝาหลังทึบมีความหนา 13.58 มิลลิเมตร และรุ่นฝาหลังใสมีความหนา 13.18 มิลลิเมตร
กระจกหน้าปัดนาฬิกา
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อน ๆ คือ ในรุ่นกระจก Sapphire จะมีการเคลือบสารกันการสะท้อนแสงที่ด้านใน ส่วนรุ่นกระจก Hesalite Glass จะยังมีโลโก้ของ Omega อยู่ตรงกลางเหมือนเดิม แต่ความสวยงามไม่แพ้รุ่นก่อนที่คุณได้รับซื้อโอเมก้าอย่างแน่นอน
กลไกภายในนาฬิกา
ถือเป็นจุดที่เปลี่ยนแปลงและแตกต่างอย่างชัดเจนสำหรับ New Moonwatch ด้วยการใช้กลไก Co-Axial Master Chronometer Calibre 3861 เป็นแบบไขลานที่มีการขัดแต่งชิ้นส่วนอย่างสวยงามด้วยลวดลาย Geneva Wave พร้อมสามารถสำรองพลังงานเพิ่มเป็น 50 ชั่วโมง เดินด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง และความเที่ยงตรงในระดับ master Chronometer ที่ผ่านการรับรองโดย METAS
เราเชื่อว่า ถ้าคุณทำความรู้จักกับนาฬิการุ่นใหม่แล้ว คุณจะต้องตกหลุมรักจนต้องรับซื้อโอเมก้ารุ่นใหม่ รุ่นใดรุ่นหนึ่งอย่างแน่นอน หากใครต้องการที่จะรับซื้อ omega รุ่นดังกล่าวให้ทันตามเทรนด์ สามารถติดต่อซื้อขายกับทาง Timethai ร้านรับซื้อ นาฬิกา omega และนาฬิกาแบรนด์อื่น ๆ ที่มีนาฬิกามากมาย รวมถึงนาฬิกาโอเมก้ารุ่นใหม่ ๆ รวมถึงรุ่นอื่น ๆ ให้คุณได้สะสมสักเรือนหนึ่ง
|
|
admeadme
[171.101.111.xxx] เมื่อ 16/12/2022 15:14
|