ลดน้ำหนักก็ให้กินไฟเบอร์ ดูแลสุขภาพก็ต้องให้กินไฟเบอร์ หรือแม้แต่ช่วงเวลาปกติ ก็ควรจะกินไฟเบอร์ ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า ไฟเบอร์คืออะไร แค่อะไรที่อยู่ในผักผลไม้ และทำให้ขับถ่ายดีหรือเปล่า มีกี่ประเภท และเราควรจะกินไฟเบอร์เยอะแค่ไหนต่อวัน วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน ไปดูกันเลย

ไฟเบอร์คืออะไร
ไฟเบอร์ หรือใยอาหาร คือกากอาหารที่มีอยู่มากในผักผลไม้ ที่ร่างกายของเราไม่สามารถย่อยได้ พูดง่าย ๆ คือ เมื่อกินไปแล้ว ต้องขับถ่ายออกมา แถมยังไม่มีสารอาหารใด ๆ อีกด้วย พูดอย่างนี้หลายคนก็คงคิดว่า เอ… แล้วตกลงมันดีหรือไม่ดีกันแน่
ถ้าถามว่าดีหรือไม่ดี ก็ต้องตอบว่าดี 100% เพราะไฟเบอร์คือสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก ๆ ไม่ว่าเราจะเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ เป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรง หรือว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่ร่างกายเริ่มถดถอย เราก็ควรจะกินไฟเบอร์ในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน หากว่ากินในรูปแบบของอาหารไม่ได้ ก็ควรจะกินในรูปแบบอาหารเสริม เพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
ประเภทของไฟเบอร์
เราสามารถแบ่งประเภทของไฟเบอร์ หรือใยอาหารเป็น 2 ประเภท ดังต่อไปนี้
1. ไฟเบอร์แบบไม่ละลายน้ำ เป็นไฟเบอร์ที่มีลักษณะเป็นฟองน้ำ จะพองตัวในกระเพาะอาหารของเราทำให้อิ่มได้นาน มีมากในผักผลไม้ต่าง ๆ ช่วยให้เราขับถ่ายปกติ
2. ไฟเบอร์แบบละลายน้ำ เป็นไฟเบอร์ที่ดูดน้ำแล้วเหมือนกับเจล มีมากในแอปเปิล และธัญพืชไม่ขัดสี ช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลและไขมัน
ประโยชน์ของไฟเบอร์คืออะไร
ประโยชน์ของไฟเบอร์มีหลากหลาย ที่สำคัญก็คือ ช่วยให้ระบบขับถ่ายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้บีบรัดตัว ของเสียที่อยู่ในลำไส้จะได้ไม่ค้างอยู่นาน จนกลายเป็นสารพิษตกค้าง
นอกจากนี้การกินไฟเบอร์ยังช่วยให้ท้องอิ่มได้นาน เพราะร่างกายของเราไม่สามารถย่อยไฟเบอร์ได้ สมองของเราจึงรับรู้ว่าในกระเพาะอาหารของเรายังคงมีอาหาร และอิ่มอยู่ ที่สำคัญยังเป็นอาหารให้จุลินทรีย์ดีในร่างกาย ซึ่งสัมพันธ์กับการสร้างภูมิคุ้มกันนั่นเอง
เราต้องการไฟเบอร์มากแค่ไหน
ในแต่ละวัน ปริมาณของไฟเบอร์ที่เราต้องการคือ 25 กรัม ซึ่งเราจะต้องกินผักวันละประมาณ 6 ทัพพี ถึงจะเพียงพอต่อความต้องการ แต่หากว่าเราไม่ชอบกินผัก เราก็สามารถกินไฟเบอร์ที่เป็นอาหารเสริมทดแทนได้
ไฟเบอร์คือสิ่งสำคัญ เราต้องกินไฟเบอร์ให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี สุขภาพแข็งแรง และมีภูมิต้านทาน