ทำรากฟันเทียมที่ไหนดี? รู้เรื่องนี้ก่อนตัดสินใจเลือก

    เพราะฟันคนไม่ใช่อะไหล่รถยนต์ที่หากชำรุดหรือหลุดไปแล้วจะสามารถหาชิ้นใหม่มาเปลี่ยนได้ง่าย ๆ ในช่วงหลัง คนจึงเริ่มหันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพฟันกันมากขึ้น นอกจากจะทำให้ยิ้มสวยมั่นใจแล้ว ยังทำให้กินของอร่อยได้สะดวก ไม่ต้องทรมานกับการปวดฟันเสียวฟัน แต่เมื่อมีเหตุไม่คาดฝันทำให้ต้องสูญเสียฟันไป ก็ต้องทำฟันใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งปัจจุบันทันตแพทย์มีการคิดค้นการทำรากฟันเทียมขึ้นมาเพื่อรักษาความบกพร่องนี้ แต่ใครที่เหมาะกับการทำรากฟันเทียม แล้วจะเลือกทำรากฟันเทียมที่ไหนดี อย่าเพิ่งตัดสินใจ หากยังไม่ได้อ่านบทความนี้!

    รากฟันเทียมคืออะไร?

    ก่อนจะพิจารณาว่าควรทำรากฟันเทียมที่ไหนดี เรามารู้จักทันตกรรมประเภทนี้กันก่อน การทำรากฟันเทียม เป็นหนึ่งในรูปแบบของทันตกรรมที่ช่วยทดแทนรากฟันจริงสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันไปด้วยสาเหตุต่าง ๆ อาทิ อุบัติเหตุ, การดูแลรักษาฟันที่ไม่ดีพอ รักษาด้วยการฝังรากเทียมลงไปในจุดที่เคยมีรากฟันจริงอยู่เพื่อเชื่อมกระดูกขากรรไกรกับฟันปลอมให้ติดอยู่ด้วยกัน ทำให้สามารถใช้งานฟันปลอมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีความแข็งแรงและทำหน้าที่บดเคี้ยวได้อย่างเป็นธรรมชาติเทียบเท่าฟันแท้โดยไม่เกิดปัญหาฟันเคลื่อน ทำได้ทั้งกับฟันหน้า ฟันกรามน้อย ฟันกรามใหญ่ และหากดูแลดี ก็สามารถใช้งานได้นานกว่า 10 ปีเลยทีเดียว

    ใครบ้างเหมาะกับการทำรากฟันเทียม?

    การทำรากฟันเทียมเพื่อทดแทนฟันแท้ที่หายไปสามารถทำได้ในคนทั่วไป แต่ช่วงอายุที่เหมาะกับการใส่รากฟันเทียมที่สุดจะอยู่ที่ 21 ปีขึ้นไป เพราะเป็นวัยที่ขากรรไกรเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว และควรเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ดูแลความสะอาดภายในช่องปากได้ดี ที่สำคัญคือต้องไม่สูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้รากฟันเทียมหลวมและสุดท้ายก็ต้องถูกถอดออก ส่วนคนที่มีปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนทำการรักษาเพื่อความปลอดภัย

    ทำรากฟันเทียมที่ไหนดี?

    การเลือกคลินิกทำรากฟันเทียมว่าจะทำที่ไหนดีก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยก่อนตัดสินใจว่าควรเลือกทำรากฟันเทียมที่ไหนดีจึงจะปลอดภัย สามารถพิจารณาได้จาก 6 ปัจจัยหลักดังนี้

1. ทำการรักษาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใส่รากฟันเทียมโดยเฉพาะ

2. เลือกคลินิกทำฟันที่ได้มาตรฐาน มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักจากกระทรวงสาธารณสุข สามารถตรวจสอบได้

3. ใช้วัสดุคุณภาพดีในการทำรากฟันเทียม ซึ่งส่วนใหญ่จะผลิตจากไทเทเนียมเกรดสำหรับใช้ทางการแพทย์

4. คลินิกต้องสะอาด มีเครื่องมือทันตกรรมครบครัน ปลอดภัย ได้มาตรฐาน

5. ราคาสมเหตุสมผล บริการดี พร้อมช่วยดูแลหากเกิดปัญหาหลังทำการรักษา

6. เดินทางสะดวกสบาย เพราะการทำรากฟันเทียมจำเป็นต้องเดินทางมาทำการรักษาหลายครั้งนั่นเอง