การสัก หรือการมีรอยสักบนร่างกาย เป็นการแสดงออกและเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่หลายๆ คนชื่นชอบ แต่หากว่าวันหนึ่งเราไม่ชอบรอยสักดังกล่าว อยากเปลี่ยนลายใหม่ หรือรอยที่ไปสักมาไม่สวยดังใจ อยากลบรอยสักคืนผิวสวยๆ เนียนเรียบดังเดิม เรามี 3 คลินิกที่ให้บริการเลเซอร์ลบรอยสักที่มีคุณภาพและไว้ใจได้มาฝากกัน
กังนัมคลินิก
กังนัมคลินิกเป็นคลินิกเสริมความงามชื่อดังที่มีบริการเลเซอร์ลบรอยสัก รอยแผลเป็น แผลผ่าตัด หรือคีลอยด์ด้วยเครื่อง PICOWAY ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้เลเซอร์ในการลบรอยสักที่เจ็บน้อยกว่าแบบอื่นๆ และใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงในการลบรอยสัก โดยเลเซอร์ลบรอยสัก PICOWAY จะใช้ความถี่ในระดับที่สามารถทำให้เม็ดสีหรือหมึกแตกตัวเป็นอนุภาคเล็กๆ และกำจัดออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้นกว่าเทคโนโลยีแบบเดิม จึงให้ผลลัพท์ที่ดีขึ้น และใช้จำนวนครั้งที่ต้องมาลบรอยสักน้อยกว่าอีกด้วย
นอกจากการให้บริการเลเซอร์ลบรอยสักแล้ว กังนัมคลินิกยังให้บริการในด้านเสริมความงามอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ ร้อยไหม ฉีดมาเด้คอลลาเจน เรียกว่ามาที่เดียว สวยครบทุกด้าน
โรงพยาบาลยันฮี
โรงพยาบาลที่ยืนหนึ่งเรื่องความงามและศัลยกรรมตกแต่งคงจะไม่พ้น “โรงพยาบาลยันฮี” ที่มีอุปกรณ์และบริการต่างๆ ครบครัน รวมถึงการให้บริการเลเซอร์ลบรอยสัก ซึ่งที่นี่มีเลเซอร์ลบรอยสักให้เลือก 3 ชนิด ได้แก่ เลเซอร์ทับทิม Nd- YAG Laser และ Picoway Laser ซึ่งจะใช้เลเซอร์ชนิดใดนั้น จะขึ้นอยู่กับความลึกสี และระยะเวลาของรอยสัก ซึ่งสามารถปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษาก่อนเลือกวิธีการรักษาได้
หลักการของการใช้เลเซอร์ลบรอยสักนั้นก็เป็นในลักษณะเดียวกัน คือ ทำให้เม็ดสีแตกตัว เป็นโมเลกุลเล็กๆ จนร่างกายสามารถกำจัดออกไปได้เอง ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 4-5 ครั้งที่รอยสักจะค่อยๆ จางลงไป
โรงพยาบาลรามคำแหง
แม้ว่าโรงพยาบาลรามคำแหงจะไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องของการเสริมความงามมากนัก แต่ด้วยมาตรฐานของโรงพยาบาลก็ช่วยให้หลายคนแนะนำให้มาลบรอยสักที่โรงพยาบาลรามคำแหงเช่นเดียวกัน
สำหรับโรงพยาบาลรามคำแหงได้นำเลเซอร์มาใช้ในการลบรอยสักเช่นกัน โดยแพทย์จะนัดประเมิน จากนั้นก็จะระบุวันและเวลาในการรักษา โดยรอยสักจะค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อเข้ารับการรักษาไปแล้ว 5-6 ครั้งภายใน 1 เดือน ซึ่งผู้ที่ลบรอยสักควรจะเดินทางเข้ามาทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ
การใช้เลเซอร์ลบรอยสักเป็นวิธีการที่ค่อนข้างปลอดภัยและสร้างผลกระทบต่อผิวน้อยกว่าวิธีอื่นๆ ทำให้ไม่เกิดเป็นแผลเป็นให้รู้สึกหงุดหงิดใจ แต่ที่สำคัญคือ จะต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องถึงจะเห็นผลเป็นที่น่าพึงพอใจ
