3 เคล็ดลับจัดการเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน |
|
อ้างอิง
อ่าน 202 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
|
เพราะด้วยประโยชน์ของเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จะเป็นเหมือนกับแหล่งเงินทุนสะสมในกรณีที่เราออกจากงาน, เกษียณ, ทุพพลภาพหรือเสียชีวิต ดังนั้นพนักงานออฟฟิศหลายคนจึงเลือกที่จะหักเงินเดือนส่วนหนึ่งไปลงกับกองทุนส่วนดังกล่าว เพื่อให้ตัวเองพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันในอนาคต นอกเหนือไปจากจุดเด่นข้อนี้แล้ว ทุกคนรู้ไหมว่าเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังมีข้อดีอื่นๆ อีกมากมายที่ถ้าหากเรารู้วิธีการจัดการที่ดี เราก็สามารถสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองได้อย่างมหาศาล ว่าแต่แนวทางการจัดการกองทุนที่ได้เกริ่นไปจะมีรายละเอียดยังไง ลองตามไปดูกันได้เลย

เลือกหักเงินเข้ากองทุนให้เยอะที่สุด
ปกติแล้วลูกจ้างสามารถอนุญาตให้นายจ้างหักเงินเดือนไปลงทุนในเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ต่ำสุด 2% และสูงสุดไม่เกิน 15% ซึ่งหากเป็นไปได้เราอยากจะให้ทุกคนเลือกหักเงินไปลงทุนในอัตราที่มากที่สุด โดยสาเหตุที่เราแนะนำเช่นนี้ก็เพราะว่า หากเราเลือกหักเยอะ นายจ้างก็จะต้องจ่ายเงินสมทบในอัตราเดียวกันกับจำนวนเงินของเราที่ถูกหัก ซึ่งนั่นจะทำให้เรามีเงินในกองทุนสะสมมากขึ้นเมื่อถึงเวลาที่เรามีสิทธิได้รับเงินลงทุนคืน นอกเหนือไปจากการได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว อีกหนึ่งข้อดีของการเลือกลงทุนในอัตราส่วนที่สูงที่สุดได้แก่ การเปิดโอกาสให้เราสามารถนำจำนวนเงินที่ถูกหักไปเป็นเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาใช้เพื่อขอลดหย่อนภาษีได้
เลือกลงทุนให้เหมาะกับช่วงอายุของตัวเอง
สำหรับใครที่ทำงานในบริษัทที่เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถจัดสรรปันส่วนเปอร์เซ็นต์ในการลงทุนได้ด้วยตัวเอง หากเป็นไปได้ เราอยากจะให้ทุกคนเลือกสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะกับช่วงอายุของตัวเอง สำหรับใครที่อยู่ในวัยเริ่มทำงานทางที่ดีควรจะนำเงินไปลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงแต่ให้ผลตอบแทนดี 80-90 % และนำส่วนที่เหลือไปลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย ส่วนใครที่อยู่ในวัย 30, 45 และ 55 ปีขึ้นไป ทางที่ดีควรเลือกลงทุนในหุ้นดังกล่าวด้วยอัตราส่วน 50%, 30% และ 15% ตามลำดับ
เลือกวิธีจัดการกับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหลังออกจากงานให้เหมาะสม
ในกรณีที่ออกจากงาน เราสามารถแบ่งวิธีการจัดการเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพออกได้เป็น 3 แนวทางหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่
การฝากเงินลงทุนไว้กับที่ทำงานเดิม – เหมาะสำหรับคนที่กำลังรอย้ายเงินไปลงทุนกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของที่ทำงานใหม่ โดยเรายังได้ผลประโยชน์เช่นเดิม แต่ไม่สามารถนำเงินไปสมทบเพิ่มเติมได้
การนำเงินไปลงทุนต่อกับที่ทำงานใหม่ – เหมาะสำหรับคนที่ย้ายงาน และที่ทำงานใหม่เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
การนำเงินออกจากกองทุนเพื่อมาบริหารด้วยตัวเอง – ในข้อนี้เราต้องพิจารณาให้ดีในเรื่องของการเสียภาษี เพราะหากเรานำเงินออกมาในขณะที่อายุงานของเรากับบริษัทเก่ายังไม่ถึง 5 ปี เราก็จำเป็นที่จะต้องเสียภาษีตามกฎหมาย
|
|
ririhase
[49.49.222.xxx] เมื่อ 16/04/2021 09:57
|