
สำหรับคนที่เคยทำคางมาแล้ว แต่ผิดหวังและอยากแก้คางใหม่ เพราะที่ไปทำมายังไม่น่าพอใจ เบี้ยว หรือเป็นก้อนจนทำให้รู้สึกกังวล และหมดความมั่นใจ ถ้างั้นลองมาอ่านบทความนี้ดู เพราะเราจะมาพูดกันถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่คุณอาจสนใจ ถ้าพร้อมแล้ว งั้นไปดูกันเลย !
ปัญหาหลัก ๆ ที่ทำให้คนไข้ส่วนใหญ่อยากแก้คาง
- คางเบี้ยว เอียง : อาจเกิดจากการวางซิลิโคนไม่ดี หรือซิลิโคนเคลื่อน จนทำให้คางอยู่ผิดองศา ดูเบี้ยว ดูเอียง
- คางห้อย ย้อย : เช่นเดียวกับด้านบน อาการดังกล่าวนี้มักจะเกิดจากการวางตำแหน่งซิลิโคนที่ไม่ดี จนทำให้ซิลิโคนเกิดการเคลื่อนตัว และมีลักษณะผิดรูป
- ฟิลเลอร์ไม่มีคุณภาพ : ปัญหานี้ถือว่าค่อนข้างอันตรายทีเดียว เพราะถ้าฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่มีคุณภาพเข้าไป จะทำให้คางผิดรูป และแข็งตัวได้
ข้อปฏิบัติสำหรับก่อนเข้ารับการผ่าตัดแก้คาง
- งดทานยาที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว จำพวกแอสไพริน วิตามิน และอาหารเสริมต่าง ๆ
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ งดก่อนผ่าตัดเสริมคางใหม่ 2 อาทิตย์
- แปรงฟันให้สะอาดก่อนทำการผ่าตัด
- งดใช้เครื่องสำอาง
รายละเอียดอื่น ๆ สำหรับการแก้อาการคางยื่น แก้คางบุ๋ม ที่ควรถามและควรทราบ
- พูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับรูปทรงที่ต้องการสำหรับการแก้คางในครั้งนี้
- สอบถามรายละเอียดอื่น ๆ ข้อสงสัยที่ต้องการจะรู้
- ต้องเข้าใจว่าผลลัพธ์ของการแก้คางนั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของศัลยกรรมที่ทำไปก่อนหน้า ในกรณีที่ใช้ซิลิโคนอาจไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร แต่ถ้าเป็นในกรณีฟิลเลอร์ไม่มีคุณภาพ อาจต้องใช้ระยะเวลา และการผ่าตัดหลายครั้ง เพื่อให้ได้คางที่ต้องการ
ข้อปฏิบัติหลังจากรับการผ่าตัดแก้คาง
- ในช่วง 1-3 วันแรกให้หมั่นประคบเย็น เพื่อลดอาการบวมช้ำ
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ควรงดไปก่อนเป็นเวลา 1 เดือน
- ของสุก ๆ ดิบ ๆ หมักดองทั้งหลายห้ามกินในช่วง 1 เดือนแรก
- งดออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการกระแทกบริเวณคางในช่วง 1 เดือนแรก
- ทานยาตามแพทย์สั่ง และเข้ารับการตรวจเช็คอาการเมื่อครบกำหนด
สรุป
อยากที่บอกไปก่อนหน้า ว่าการแก้คางนั้นไม่อาจคืนสภาพได้เหมือนเดิม 100% เนื่องจากผิวหนังมีการเปลี่ยนสภาพจากการทำศัลยกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในกรณีของฟิลเลอร์ที่ไม่มีคุณภาพ ที่อาจต้องใช้ระยะเวลา มีการผ่าตัดหลายครั้ง และการทิ้งระยะห่างเพื่อให้เนื้อเยื่อฟื้นตัว ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
ประสิทธิภาพการรักษาจะค่อย ๆ ลดลงตามความถี่ในการผ่าตัด ดังนั้นจึงไม่ใช่ว่าจะไปทำที่ไหนก็ได้ ควรหาหมอที่มีฝีมือ และความเชี่ยวชาญ เพื่อลดจำนวนการผ่าตัดให้น้อยที่สุด