7 เคล็ดลับเลือกรถบรรทุกของให้ถูกใจ ยังไงก็ไม่มีปัญหา |
|
อ้างอิง
อ่าน 280 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
|

ด้วยทุกวันนี้มีผู้ให้บริการรถบรรทุกของรับจ้างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะ รถหกล้อ หรือรถสิบล้อรับจ้าง และมีทั้งรูปแบบบุคคลและนิติบุคคล ปัญหาที่ผู้ว่าจ้างรถบรรทุกมักจะเจอบ่อย ๆ คือปัญหาการจ้างรถบรรทุกแล้วไม่มาตามนัด หรือไม่ก็มาช้าไม่ตรงเวลา หรือขอเงินเพิ่ม และแย่ที่สุดคือบริการแบบขอไปที แล้วแบบนี้จะมีวิธีเลือกใช้บริการรถบรรทุกของอย่างไรให้ได้ที่ราคาถูก บริการดี และไม่มีปัญหาตามมา
1. มีตัวตนและน่าเชื่อถือ ถ้าเป็นผู้ให้บริการรถบรรทุกของรูปแบบบุคคล ก็ควรเป็นคนที่มีอยู่จริง สามารถเห็นได้ผ่าน Social Media เช่น มีแอคเคาท์เฟสบุ๊ค แฟนเพจ หรืออินสตาแกรม หรือหากเป็นบริษัทนิติบุคคลก็ควรมีหลักฐานให้เห็นชัดเจน ยิ่งถ้ามีแอพพลิเคชั่นที่ใช้จองรถ ติดตามสถานะขนส่งได้ ก็ยิ่งจะทำให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
2. ให้คำปรึกษาและตอบทุกข้อสงสัย ผู้ให้บริการรถบรรทุกของเป็นหนึ่งในอาชีพบริการ สิ่งที่อาชีพบริการต้องมีคือการมี Serviced-Mind การให้ข้อมูลที่รอบด้านให้แก่คนที่สนใจ แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ให้บริการที่ดีและใส่ใจในการให้บริการกับทุกคนทุกระดับ
3. ติดตามสถานะขนส่งได้ หากระหว่างขนส่งสินค้าไม่มีคนนั่งติดรถไปด้วย การเช็คสถานะระหว่างเดินทางได้จะทำให้ผู้ว่าจ้างอุ่นใจได้ จะเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยของสินค้าหรือสิ่งของที่ขนย้ายให้กับผู้ว่าจ้างได้ ผู้ว่าจ้างไม่ต้องกลัวว่าของจะสูญหาย
4. มีมาตรฐานราคาชัดเจน การมีราคาว่าจ้างรถบรรทุกของที่ชัดเจน มีราคาในการจ้างรถแต่ละประเภท จะช่วยให้ผู้ว่าจ้างไม่ต้องกลัวว่ารถบรรทุกของจะมาขอเพิ่มราคาในทีหลัง
5. สภาพรถ การได้เห็นสภาพรถบรรทุกของก่อน จะช่วยในการตัดสินใจว่าจะว่าจ้างรถบรรทุกนั้นหรือไม่ คงไม่มีผู้ว่าจ้างคนไหนอยากให้เกิดปัญหาระหว่างขนส่ง เพราะหากรถเสียหรือมีอุบัติเหตุขึ้นมา นอกจากจะทำให้เสียเวลาแล้ว ยังจะทำให้สินค้าเสียหายได้อีกด้วย
6. มีบริการเสริม รถบรรทุกของที่ดีควรมีบริการทีมงานยกของ เพื่อเป็นบริการที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ว่าจ้าง ช่วยทุ่นแรง ทำให้ผู้ว่าจ้างไม่ต้องจัดหาคนยกสินค้าเอง เป็นการยกระดับความเป็นมืออาชีพให้กับรถบรรทุกรับจ้าง
หากมีการประกันความเสียหาย ก็เป็นอีกหนึ่งบริการเสริมที่รถบรรทุกของควรจะมี เป็นบริการที่บ่งบอกว่ารถบรรทุกของจะระมัดระวังและใส่ใจในการส่งของ และเป็นการสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ว่าจ้างได้ว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ผู้ว่าจ้างจะได้รับการเยียวยาจากความเสียหายที่เกิดขึ้น
7. ให้บริการพื้นที่ครอบคลุมทั่วไทย ความสามารถในการวิ่งส่งของไปในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นชายแดนหรือบนดอย แสดงให้เห็นว่ารถบรรทุกของนั้นไม่เกี่ยงงาน รู้เส้นทาง รู้จักพื้นที่ สามารถรับงานได้ทั้งงานหนักและงานเบา ถือว่าเป็นผู้ให้บริการที่เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง
หากผู้ว่าจ้างได้นำเอา 7 ข้อนี้ไปพิจารณาเชื่อว่าจะได้รถบรรทุกของที่บริการดี ซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา บริการเป็นมืออาชีพ ในราคาค่าบริการที่คุ้มค่าในการจ่ายแน่นอน
|
|
ririhase
[49.49.243.xxx] เมื่อ 26/03/2020 14:30
|